5 อันกับงูพิษที่พิษแรงสุดในโลก
งูพิษทั้ง 5 อันดับ
พอร์ตโฟลิโอสร้างสรรค์
5. งูไวเปอร์ (Vipers)
งูในวงศ์ไวเปอร์(Viperidae)เป็นงูพิษที่พบได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก เว้นแต่ที่แอนตาร์กติกา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ มาดากัสการ์ และฮาวายบรรดางูไวเปอร์นั้นสามารถเคลื่อนที่ได้อย่ารวดเร็วและออกหากินในเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาหลังฝนตกพวกมันเลื้อยได้เร็วมากแต่สิ่งที่พิเศษที่สุดของงูพิษไวเปอร์นั้นก็คือพิษที่สามารถก่อให้เกิดอาการต่างๆโดยเริ่มจากการปวดในบริเวณที่ถูกกัดตามมาด้วยอาการบวมในทันที มักจะพบว่าเหยื่อมีเลือดออกโดยเฉพาะจากเหงือกความดันโลหิตลดลงและอัตราการเต้นของหัวใจไม่ทำงานซึ่งนำไปสความตายในที่สุด
งูแบล็กแมมบายังได้ถูกจัดให้เป็นงูที่อันตรายและเป็นงูพิษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีแอฟริกา ด้วยความเป็นงูที่หากินบนพื้นเป็นหลักคล่องแคล่วว่องไวอีกทั้งยังเป็นงูที่ไม่กลัวมนุษย์ มีอุปนิสัยดุร้ายก้าวร้าว เมื่อปะทะกับมนุษย์ซึ่ง ๆ หน้า จะไม่หลบหนีเหมือนงูชนิดอื่น ๆ
4. งูแบล็กแมมบา (Black Mamba)
3. งูไทปัน (Taipan)
งูไทปัน เป็นสกุลของงูในวงศ์งูพิษเขี้ยวหน้า (Elapidae) ใช้ชื่อสกุลว่า Oxyuranus เป็นงูที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นงูกลุ่มที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก มีลำตัวยาวโดยประมาณ 2-3.6 เมตร ลักษณะลำตัวมีสีน้ำตาลปนดำ มักอาศัยอยู่ตามซอกหินในทะเลทรายของประเทศออสเตรเลียพิษของงูสกุลนี้เป็นที่เลื่องลือในประเทศออสเตรเลียเป็นอย่างมาก ด้วยความเร็วในการออกฤทธิ์ ของพิษที่ไปทำลายระบบประสาท ภายในเวลา 45 นาที และการกัดแต่ละครั้งสามารถฆ่ามนุษย์ได้มากถึง 100 คน นับว่ามีพิษมากกว่างูเห่าถึง 50 เท่า เชื่อว่าการที่งูไทปันต้องมีพิษร้ายแรงแบบนี้ เป็นผลมาจากการวิวัฒนาการเพื่อฆ่าได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงมาก ซึ่งเหมาะสมเป็นอย่้างมากสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทราย ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ แห้งแล้ง ในน้ำพิษจะประกอบไปด้วย สารนิวโรท็อกซิน (neurotoxins) ซึ่งจะไปทำลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โปรตีนโปรโคอะกูเลนท์ (procoagulants) ทำลายระบบเลือดโดยทำให้เลือดไม่แข็ง แผลที่กัดจะมีเลือดไหลตลอดเวลา สารไมโทซิน (myotoxins) ทำลายระบบกล้ามเนื้อ
2. งูทับสมิงคลา
(Blue Krait)
งูทับสมิงคลา หรืองูทับทางขาว เป็นงูพิษอันตรายถึงแก่ชีวิต ลักษณะเด่นคือ ลำตัวมีลายขาวสลับดำ ส่วนท้องมีสีขาว เกล็ดที่แถวกลางของลำตัวจะเป็นรูปหกเหลี่ยมมีขนาดใหญ่กว่าเกล็ดข้างลำตัว มีความใกล้เคียงกับ งูปล้องฉนวนบ้าน ซึ่งมีสีขาวสลับดำเช่นกัน แต่เป็นงูไม่มีพิษ และเกล็ดที่แถวกลางของลำตัวจะไม่เป็นรูปหกเหลี่ยม งูทับสมิงคลามีความว่องไวปราดเปรียว และดุร้ายกว่างูสามเหลี่ยม ออกหากินเวลากลางคืน โดยจับกบ เขียด งูขนาดเล็กกินเป็นอาหาร พบได้ทุกภาคของประเทศไทย แต่พบน้อยทางภาคเหนือและภาคตะวันตก อาการหลังถูกกัด เริ่มแรกอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศรีษะ ตามัว ชารอบปาก ก่อนจะมีอาการทางระบบประสาท คือ ผู้ป่วยจะลืมตาไม่ขึ้น พูดไม่ชัด กลืนน้ำลายไม่ได้ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก นอกจากนี้บริเวณที่ถูกกัดจะ"ไม่เกิดอาการบวมและไม่เกิดเนื้อตาย" หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ผู้ที่ถูกกัดได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
1. งูทะเล
(Sea Snake)
งูทะเล นับได้ว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในโลก โดยพิษของงูทะเลเพียงไม่กี่มิลลิกรัมก็มีฤทธิ์มากพอที่จะสังหารมนุษย์ได้ถึง 100 คนแล้ว การกัด 1 ใน 4 ครั้งมักจะมีพิษ อย่างไรก็ตาม งูทะเลนั้นมีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างจะเชื่องช้า โดยชาวประมงมักจะตกเป็นเหยื่อถูกงูทะเลกัดมากที่สุด เนื่องจากมักจะพบงูสายพันธุ์นี้ติดขึ้นมากับอวนหาปลาในมหาสมุทร งูทะเลสามารถพบได้ทั่วน่านน้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางตอนเหนือของออสเตรเลีย สำหรับพิษของงูทะเลนั้นมีความรุนแรงต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของงูทะเล โดย Dubois' seasnake นับเป็นงูทะเลที่มีพิษร้ายมากที่สุด